ศาลสูงสุดของสหประชาชาติได้ปฏิเสธความพยายามของเมียนมาร์ในการยุติคดีที่กล่าวหาว่าเป็นการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชนกลุ่มน้อยโรฮิงญาของประเทศ เป็นการปูทางให้มีการรับฟังหลักฐานการทารุณกรรม
ศาลยุติธรรมระหว่างประเทศปฏิเสธคำคัดค้านเบื้องต้นทั้งหมดที่เสนอโดยเมียนมาร์ ซึ่งขณะนี้ถูกปกครองโดยรัฐบาลเผด็จการทหาร ในการไต่สวนเมื่อวันศุกร์
คดีนี้ยื่นฟ้องโดยแกมเบียโดยมีศูนย์กลางอยู่ที่การปราบปรามของทหารอย่างโหดร้ายในปี 2559 และ 2560 ซึ่งบังคับให้ชาวโรฮิงญามากกว่า 700,000 คนหลบหนีข้ามพรมแดนไปยังบังกลาเทศที่อยู่ใกล้เคียง
โดยกล่าวหาว่าทหารของเมียนมาร์ดำเนิน ปฏิบัติการกวาดล้าง อย่างกว้างขวางและเป็นระบบต่อชาวโรฮิงญากระทำการสังหารหมู่ ข่มขืน และจุดไฟเผาหมู่บ้าน โดยมี เจตนาที่จะทำลายชาวโรฮิงญาทั้งกลุ่มทั้งหมดหรือบางส่วน
เมียนมาร์โต้แย้งว่าศาลไม่มีเขตอำนาจศาล โดยอ้างว่าแกมเบียไม่สามารถดำเนินคดีได้ เนื่องจากไม่ได้รับผลกระทบโดยตรงจากเหตุการณ์ดังกล่าว และเนื่องจากไม่มีข้อพิพาททางกฎหมายระหว่างสองประเทศก่อนการฟ้องคดี นอกจากนี้ยังอ้างว่าแกมเบียทำหน้าที่เป็น ตัวแทน ให้กับองค์กรความร่วมมืออิสลามและขาดจุดยืนเนื่องจาก เว็บตรง ควบคุมเฉพาะข้อพิพาทระหว่างรัฐเท่านั้น
ข้อโต้แย้งดังกล่าวถูกศาลปฏิเสธ โจน อี โดโนฮิว ประธานศาลของสหรัฐฯ ได้อ่านคำตัดสินดังกล่าวว่า ศาลตั้งข้อสังเกตว่าแกมเบียได้ก่อตั้งกระบวนพิจารณาในปัจจุบันในนามของตนเองในฐานะรัฐภาคีแห่งกฎเกณฑ์ของศาลและอนุสัญญาการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์
ประธาน สล็อตเว็บตรง กล่าวว่าการตัดสินใจเมื่อวันศุกร์เป็น ก้าวที่ยิ่งใหญ่สำหรับความยุติธรรม
เป็นการส่งสัญญาณไปยังกองทัพเมียนมาร์ว่าพวกเขาไม่สามารถกระทำการทารุณโดยมิต้องรับโทษ การดำเนินคดีมีความสำคัญมากกว่าในแง่ของรัฐประหารในเดือนกุมภาพันธ์ 2564 ซึ่งเกิดขึ้นและกล้าได้กล้าเสียจากการไม่ต้องรับโทษที่ทหารได้รับมานานเกินไป
|