สหภาพฟุตบอล รัสเซีย ไม่ขออยู่เฉย ประกาศอุทธรณ์ต่อศาลกีฬาโลกแล้วหลังถูก สหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ (ฟีฟ่า) และ สหพันธ์ฟุตบอลยุโรป (ยูฟ่า) แบนทั้งทีมชาติ และสโมสรออกจากการฟาดแข้งทุกรายการในทุกระดับจนกว่าจะมีการเปลี่ยนแปลง
สององค์กรลูกหนังตัดสินใจแทรกแซงการประกาศโจมตี ยูเครน ของ รัสเซีย ในทุกวิถีทางเพื่อแสดงให้เห็นว่าโลกลูกหนังมีความรู้สึกตรงกับชาวโลกที่ไม่เห็นด้วยกับการรุกรานดินแดนของอีกชาติ
แรกทีเดียว ยูฟ่า ประกาศริบสิทธิ์การเป็นเจ้าภาพนัดชิงถ้วย แชมเปี้ยนส์ลีก ซีซั่นนี้ของเมือง เซนต์ ปีเตอร์สเบิร์ก ,รัสเซีย ในวันที่ 28 พ.ค.มอบให้กับกรุง ปารีส รับผิดชอบแทน พร้อมทั้งยุติความสัมพันธ์กับ กาซพรอม บริษัทพลังงานยักษ์ใหญ่ของเมืองหมีขาวซึ่งเป็นสปอนเซอร์หลักที่ยาวนานของการแข่งขันด้วย
อย่างไรก็ดี หลังเห็นว่า รัสเซีย ยังไม่มีท่าทีตอบสนอง และยังเดินหน้าโจมตีหลายๆเมืองของ ยูเครน อย่างไม่ลดละ ฟีฟ่า จึงจับมือกับ ยูฟ่า ใช้มาตรการขั้นเด็ดขาดประกาศแบนทีมชาติ รัสเซีย ออกจากการฟาดแข้งในทุกรายการ และทุกระดับจนกว่าจะมีการเปลี่ยนแปลง
ต่อกรณีดังกล่าว ล่าสุดเมื่อ 3 มี.ค.สหภาพฟุตบอล รัสเซีย ตัดสินใจเคลื่อนไหวด้วยการอุทธรณ์ไปยังศาลกีฬาโลกแล้วด้วยมั่นใจว่าสององค์กรลูกหนังไม่มีอำนาจสั่งขับทีม หมีขาว ออกจากการแข่งขัน
"เราเชื่อว่า ฟีฟ่า และ ยูฟ่า ไม่มีอำนาจตามกฏหมายต่อการตัดสินใจเขี่ยทีมชาติ รัสเซีย ออกจากการแข่งขัน พร้อมกันนี้ สหภาพฟุตบอล รัสเซีย ยังไม่ได้รับสิทธิ์ให้แสดงจุดยืนด้วยซึ่งขัดแย้งกับกฏพื้นฐาน" สหภาพฟุตบอล รัสเซีย ระบุเมื่อ 3 มี.ค.
"ขณะเดียวกัน เมื่อพวกเขาตัดสินใจ ฟีฟ่า และ ยูฟ่า ไม่ได้ใช้วิธีการหรือทางเลือกอื่นที่สามารถเป็นไปได้ ยกเว้นการขับ รัสเซีย ออกจากการแข่งขันโดยสิ้นเชิง"
พร้อมกันนี้ สหภาพฟุตบอล รัสเซีย ยังระบุด้วยว่าต้องการค่าเสียหายจากการถูกลงโทษตามสิทธิ์ในฐานะที่พวกเขาเป็นสมาชิกของทั้ง ฟีฟ่า และ ยูฟ่า
สำหรับทีมชาติ รัสเซีย ถูกขับออกจากการลงเตะ ฟุตบอลโลก รอบรองชนะเลิศเพลย์ออฟดวลกับ โปแลนด์ วันที่ 24 มี.ค. ขณะที่ทีมชาติหญิงถูกแบนออกจากศึก ยูโร 2022 ที่ อังกฤษ ในช่วงซัมเมอร์
ด้าน สปาร์ตัก มอสโกว์ สโมสรจากแดน หมีขาว ถูกขับออกจากศึก ยูโรปาลีก รอบ 16 ทีมโดย แอร์เบ ไลป์ซิก ทีมคู่แข่งของพวกเขาได้รับสิทธิ์ให้ชนะผ่านเข้ารอบแปดทีมสุดท้าย
|