[x] ปิดหน้าต่างนี้
Powered by ATOMYMAXSITE 2.5
เมนูหลัก
ระบบสมาชิก
Username :
Password :
[ สมัครสมาชิก ] | [ ลืมรหัสผ่าน ]
สมาชิกทั้งหมด 112 คน
สมาชิกที่กำลังออนไลน์ 0 คน
ฝากข้อความ
ชื่อ :
ข้อความ

Close
:) :D :(
:o :p ;)
:| x( :~
(ตัวแสดงอารมณ์)

poll

   คุณคิดว่าเวปนี้เป็นอย่างไร


  1. ดีมาก
  2. ดี
  3. ปานกลาง
  4. แย่
  5. แย่มาก



 

  

   เว็บบอร์ด >> >>
  VIEW : 206    
โดย Z

UID : ไม่มีข้อมูล
โพสแล้ว : 81
ตอบแล้ว :
เพศ :
ระดับ : 7
Exp : 26%
เข้าระบบ :
ออฟไลน์ :
IP : 194.5.82.xxx

 
เมื่อ : จันทร์ ที่ 17 เดือน ตุลาคม พ.ศ.2565 เวลา 13:06:49    ปักหมุดและแบ่งปัน



คอบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ยอมรับว่าในช่วงเกือบทศวรรษนี้ ลิเวอร์พูล และ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เป็นสองสโมสรที่แกร่งที่สุดในวงการลูกหนังเมืองผู้ดี และพวกเขาเตรียมปะทะฝีเกือกกันอีกครั้งในเกมลีกที่สนามแอนฟิลด์ วันอาทิตย์ที่ 16 ตุลาคมนี้
ทีมของ เจอร์เก้น คล็อปป์ อาจจะทำผลงานได้ไม่ค่อยดีนักในช่วงต้นซีซั่นนี้ ขณะที่ "เรือใบสีฟ้า" ยังคงรักษาฟอร์มการเล่นที่ร้อนแรงอย่างต่อเนื่อง แต่กระนั้นพวกเขายังคงเป็น 2 ทีมที่อันตารยที่สุดในลีกอังกฤษ และฟุตบอลยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก
แม้ว่าสถานการณ์ของ "หงส์แดง" จะไม่ค่อยดีนักเมื่อพวกเขาหล่นไปอยู่อันดับ 10 มีแค่ 10 คะแนนตามหลังทีมของกุนซือเป๊ป กวาร์ดิโอล่า ที่รั้งรองจ่าฝูงถึง 13 แต้มก็ตาม แต่ทุกครั้งที่ทั้งสองทีมดวลกันผลการแข่งขันสามารถออกมาได้ทุกรูปแบบ
ในส่วนของ แมนฯ ซิตี้ แน่นอนว่าพวกเขาถือไฟ่เหนือกว่าจากฟอร์มการเล่นที่สุดยอด โดยเฉพาะการที่พวกเขาได้ตัว เออร์ลิง ฮาลันด์ มาร่วมทัพ และ ดาวรุ่งชาวนอร์เวย์ ก็ไม่ทำให้แฟนบอลต้องผิดหวังเมื่อตะบันไปแล้ว 20 ประตูจากทุกรายการให้ต้นสังกัด
ก่อนที่ซูเปอร์บิ๊กแมตช์จะระเบิดขึ้นในช่วงสุดสัปดาห์นี้ แฟนบอลพันธุ์แท้ของทั้งสองทีม ลองมาพิจารณาดูว่า 11 ตัวจริงแบบผสมผสานทีมจัดให้ดูในครั้งนี้ เหมาะสมด้วยประการทั้งปวงหรือไม่  
ผู้รักษาประตู - อลีสซง เบ็คเกอร์
เอแดร์ซอน โมราเอส กับ อลีสซง เป็นสองผู้รักษาประตูที่ทำผลงานได้อย่างเหนียวหนึบในเกมลีกสูงสุดเมืองผู้ดี กระนั้นหากเทียบฟอร์มโดยรวมแล้ว ต้องยอมรับว่า เอแดร์ซอน ไม่ค่อยได้ทำงานมากนักเพราะทัพ "สำเภาทอง" มีแนวรับที่แข็งแกร่ง จึงยากที่คู่แข่งจะเจาะเข้ามาดวลกับเขา สวนทางกับ อลีสซง ที่ตอนนี้แผงแบ็กโฟร์ของทีมกลายเป็นบ่อน้ำมันชั้นดี และมีหลายช็อตที่เจ้าตัวโชว์ซูเปอร์เซฟช่วยให้ "เดอะ เร้ดส์" รอดจากหายนะ ฉะนั้นในตอนนี้คงต้องยกให้ "พ่อหมี" ยืนหนึ่งยึดตำแหน่งโกลไปแบบเอกฉันท์
แบ็กขวา - ไคล์ วอลค์เกอร์
สำหรับสถานการณ์ในปัจจุบันมันช่างง่ายดายเหลือเกินที่จะตัดชื่อ เทรนต์ อเล็กซานเดอร์ อาร์โนลด์ ออกจากตัวเลือกนี้ เพราะฟอร์มที่ย่ำแย่ของเขาไม่ว่าจะเกมรับสุดห่วย ส่วนเกมรุกก็ไม่ค่อยได้สร้างความอันตราย จึงไม่มีอะไรน่าประทับใจสำหรับเจ้าตัว สวนทางการ วอลค์เกอร์ ที่ยังรักษามาตรฐานการเล่นที่แข็งแกร่ง โดยเฉพาะเกมรับที่มีความคงเส้นคงวามากกว่า "หนุ่มเทรนต์" หลายเท่า 
เซนเตอร์แบ็ก - รูเบน ดิอาส กับ เฟอร์จิล ฟาน ไดค์
แม้ว่า ฟาน ไดค์ จะฟอร์มไม่ค่อยดีนักในช่วงต้นฤดูกาล แต่ ปราการหลังทีมชาติเนเธอร์แลนด์ ยังคงเป็นหนึ่งในผู้เล่นที่ดีที่สุดในตำแหน่งของเขา และมีหลายครั้งที่เขาช่วยให้ทีมรอดจากการเสียประตู ในขณะที่ ดิอาส ได้รับคำชื่นชมว่าเป็นผู้นำในเกมรับของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ และแน่นอนว่าเจ้าตัวคือกำแพงเหล็กที่จะทำให้แนวรุกของ "หงส์แดง" ต้องปวดหัวในการเจาะเข้าไปทำประตู 
แบ็กซ้าย - ชูเอา กานเซโล่
ตอนนี้ไม่มีใครกล้ามาเถียงแล้วว่า กานเซโล่ เป็นแบ็กซ้ายที่เก่งที่สุดในโลก เขามีทุกอย่างที่ฟูลแบ็กสมัยใหม่ต้องการ ไม่ว่าจะเกมรุกที่ดุดัน และเกมรับที่เต็มไปด้วยทักษะชั้นสูง ส่วน แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน ต้องยอมรับสภาพว่าฟอร์มไม่ได้เก่งฉกาจเหมือนกับช่วงหลายๆ ปีที่ผ่านมา ผสมกับอาการบาดเจ็บในช่วงต้นซีซั่น ยิ่งทำให้ฟอร์มของเจ้าตัวร่วงกราวรูด ขณะที่ คอสตาส ซิมิคาส มาตรฐานยังไม่ถึงที่จะติดทีมชุดนี้ 
กองกลาง - โรดรี้ กับ เควิน เดอ บรอยน์
ไม่ต้องสงสัยเลยสำหรับการเลือกตำแหน่งนี้ เพราะมองไปที่ฝั่งของ ลิเวอร์พูล ไม่ว่าจะเป็น จอร์แดน เฮนเดอร์สัน, ฟาบินโญ่ และ ติอาโก้ อัลกันทาร่า ผลงานดร็อปลงไปแบบหน้ามือเป็นหลังเท้า ส่วน ฮาร์วี่ย์ เอลเลียตต์ ต้องพัฒนาฝีเท้าต่อไป ฉะนั้น โรดรี้ กับ เดอ บรอยน์ จึงยืนหนึ่งในแผงมิดฟิลด์เพราะพวกเขาเป็นคู่กองกลางที่เก่งที่สุดในโลกเรียบร้อยแล้ว โดยเฉพาะในรายของ เพลย์เมกเกอร์ทีมชาติเบลเยียม ได้รับการเชิดชูว่าเป็นจอมผ่านบอลที่เฉียบคมที่สุดในวงการลูกหนังยุคนี้ ส่วน โรดรี้ พัฒนาศักยภาพจนกลายเป็นโฮลดิ้งมิดฟิลด์ระดับเวิลด์คลาสไปแล้ว 
แนวรุกฝั่งขวา - โมฮาเหม็ด ซาลาห์
ถ้าเรามองแค่ฟอร์มในช่วงที่ผ่านมา เขาคงไม่ใกล้เคียงที่จะได้มีชื่อติดทีมชุดนี้ แต่มันเป็นไปไม่ได้เลยที่จะตัดชื่อนักเตะที่ได้ชื่อว่าเป็นหนึ่งในแนวรุกที่เก่งที่สุดในโลกออกไป "บังโม" ยังคงเป็นตัวความหวังของ "เดอะ เร้ดส์" ได้เสมอ แม้ในวันที่ฟอร์มไม่โดดเด่นแต่เจ้าตัวก็พร้อมสร้างความอันตรายให้กับแนวรับคู่แข่ง อย่างล่าสุดขนาดลงเป็นตัวสำรองยังจัดหนักซัดแฮตทริกได้แบบสบายๆ ฉะนั้นในปัจจุบันยังไม่มีใครเหนือกว่า "คิง ออฟ อียิปต์" 
กองกลางตัวรุก - โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่
ฮีโร่มักจะโผล่ออกมาในยามที่เกิดวิกฤติ และ ลิเวอร์พูล ก็ได้ ฟีร์มีโน่ ช่วยกอบกู้สถานการณ์ของทีมในช่วงที่ผ่านมา ตอนแรกหลายๆ คนคิดว่า "บ็อบบี้" คงหมดอนาคตกับทีมไปแล้ว แต่กลับตาลปัตรเพราะ สตาร์ชาวบราซิเลียน สร้างผลงานดีมีคุณภาพในฤดูกาลนี้ ไม่ว่าจะเป็นการมีส่วนร่วมกับเกม, แอสซิตส์, สร้างโอกาสให้เพื่อนร่วมทีม และยิงประตู เจ้าตัวทำได้อย่างสุดยอด และคู่ควรที่จะได้ลงเล่นในตำแหน่งนี้ 
แนวรุกฝั่งซ้าย - ฟิล โฟเด้น
ตอนนี้คงไม่มีใครกล้าปฏิเสธว่า โฟเด้น เป็นผู้เล่นดาวรุ่งที่มีพัฒนาการแบบเขย่งก้าวกระโดดจริงๆ เพราะฟอร์มของเขาอันตรายสุดๆ ไม่ว่าจะเป็นความรวดเร็ว, การวิ่งหาพื้นที่ว่าง และการจบสกอร์ แข้งเลือดผู้ดีรายนี้ทำได้เนียนกริบ สำหรับปัจจุบันมีแค่ แฮร์รี่ เคน และ ฮาลันด์ ยิงประตูมากว่า ดาวเตะวัย 22 ปี ที่สำคัญ โฟเด้น เป็นนักเตะที่มีความหลากหลายไม่ว่าจะเล่นแนวรุกทั้งซ้ายและขวา รวมทั้งมิดฟิลด์ตัวกลาง แนวรุกทีมชาติอังกฤษ ทำได้ยอดเยี่ยมทั้งหมด
หน้าเป้า - เออร์ลิง ฮาลันด์
ตอนนี้ ฮาลันด์ ถูกยกให้เป็นกองหน้าที่เก่งและเฉียบคมที่สุดในโลก โดยหัวหอกชาวนอร์เวย์ซัดประตูได้ทุกรูปแบบ ที่สำคัญเจ้าตัวยังรักษาฟอร์มการเล่นที่มีประสิทธิภาพได้อย่างต่อเนื่อง ยิ่งไปกว่านั้นนักเตะสามารถทำประตูได้ไม่จะอยู่ทางฝั่งซ้าย, ขวา และตรงกลาง แถมบางครั้งยังโชว์ลีลาตะบันตาข่ายแบบเหนือความคาดหมายก็มีให้เห็นเช่นกัน ฉะนั้นหากใครจะหยุดเขาได้ก็ถือว่าเก่งมากๆ แล้วใครจะหยุดได้ล่ะ ลิซานโดร มาร์ติเนซ หรือเปล่า ???


สนับสนุนโดยเว็บไซต์ Ufabet




Based on : Maxsite1.10 Modified to ATOMYMAXSITE 2.5


Based on : Maxsite1.10 Modified to ATOMYMAXSITE 2.5