[x] ปิดหน้าต่างนี้
Powered by ATOMYMAXSITE 2.5
เมนูหลัก
ระบบสมาชิก
Username :
Password :
[ สมัครสมาชิก ] | [ ลืมรหัสผ่าน ]
สมาชิกทั้งหมด 112 คน
สมาชิกที่กำลังออนไลน์ 0 คน
ฝากข้อความ
ชื่อ :
ข้อความ

Close
:) :D :(
:o :p ;)
:| x( :~
(ตัวแสดงอารมณ์)

poll

   คุณคิดว่าเวปนี้เป็นอย่างไร


  1. ดีมาก
  2. ดี
  3. ปานกลาง
  4. แย่
  5. แย่มาก



 

  

   เว็บบอร์ด >> >>
  VIEW : 185    
โดย

UID : ไม่มีข้อมูล
โพสแล้ว : 5846
ตอบแล้ว : 702
เพศ :
ระดับ : 65
Exp : 91%
เข้าระบบ :
ออฟไลน์ :
IP : 84.17.39.xxx

 
เมื่อ : ศุกร์์ ที่ 2 เดือน ธันวาคม พ.ศ.2565 เวลา 13:12:42      แก้ไขกระทู้ ปักหมุดและแบ่งปัน

รถผ้าป่าคว่ำเทกระจาดตกเหวกันถ้วนหน้าหลัง ญี่ปุ่น ไม่ใช่แค่เข้ารอบ 16 ทีมสุดท้ายอย่างเดียวแต่มาในฐานะแชมป์กลุ่มทั้งๆที่ครึ่งแรกเป็นรอง สเปน สุดกู่เหมือนวันที่ชนะ เยอรมัน นัดเปิดสนามเป๊ะๆ
ชาวโซเชี่ยลที่รอเหยียบซ้ำ ฮาจิเมะ โมริยาสุ กุนซือจำเป็นต้องแยกย้ายชั่วคราวเพราะความอินดี้จัดตัวแปลกๆทุกนัดมันกลับปังปุริเย่ชนะ 2 พี่ใหญ่ของยุโรปได้พร้อมๆกัน
จากรูปเกมครึ่งแรกตลอดทั้ง 45+1 บอลหน้าเดียวตามบท “กระทิงดุ” เคาะบอลครองบอลและเริ่มนับ 1 ตั้งแต่นาทีที่ 11 ดูเหลี่ยมไหนมองไม่เห็นทางที่ ญี่ปุ่น จะสร้างปาฏิหาริย์อะไรได้อีก
ช่วงพักครึ่งผมไปค้นตู้เย็นหาอะไรกิน เสร็จแล้วสต๊าร์ตรถออกมาตากฝนชิวๆ กลับเข้าบ้านแป๊บเดียวบอลเตะไป 50 นาทีนิดๆ ได้ยินเสียงผู้บรรยายบอก ญี่ปุ่น นำ 2-1
เดินเข้าไปจ้องสกอร์ใกล้ๆ แม่ง 2-1 จริงๆว่ะ!!
ที่ตะลึงไปกว่านั้นคือยิง 2 ลูกใน 3 นาที จะมีใครหน้าไหนเอาตีนลูบหน้า สเปน ได้ในแบบที่ ญี่ปุ่น ทำ นึกแทบไม่ออก
คนปลุกความหวังไม่ใช่ใครที่ไหน ฮีโร่ยิงใส่ เยอรมัน คนเดิม “ริสึ โดอัน”
ทีเด็ดตัวสำรองของ ญี่ปุ่น เสกประตูที่ 2 จากความขยันของ คาโอรุ มิโตมะ ที่ดูภาพช้ากี่บอลเหมือนออกเส้นหลังไปแล้ว
แต่พอมุมสูงเทคโนโลตีเส้นทาบยังไม่ออกเต็มใบ 100% เหลือขอบๆในระดับมิลลิเมตร
ครับเป็นโอกาสอันน้อยที่หายากมากๆในเกมนี้ของ ญี่ปุ่น แต่กลับทำได้ถึง 2 ประตูก่อนจะเป็นบอลวันเวย์ที่ “กระทิงดุ” ครองบอลหลังจบเกมสูงถึง 82%
มีการบันทึกสถิติไปใหม่เรียบร้อยแล้วนะครับว่าทีม “ซามูไร” เป็นทีมที่ครองบอลน้อยที่สุดในประวัติศาสตร์ฟุตบอลโลกแค่ 17.7% แต่กลับเอาชนะคู่แข่งได้
กลุ่ม อี เกือบทำให้บอลโลกหนนี้กลายเป็นตำนานที่ถูกกล่าวขานไปอีกนานเพราะ สเปน ควงแขนตกรอบพร้อมๆ เยอรมัน อยู่ราว 3 นาทีซึ่งเป็นช่วงที่ คอสตา ริก้า พลิกนำ 2-1 จนสนามแทบแตก
แต่ความเสียวที่ว่านี้อยู่ได้แป๊บๆก่อนถูก อินทรีเหล็ก บดขยี้ต้านไม่ไหวแพ้ 4-2 ดึงตกรอบกันไปทั้งคู่
หากเราสังเกตให้ดี สเปน ที่โหมจะตีเสมออยู่นานสองนานแต่พอ 5 นาทีสุดท้ายแอบปล่อยจอยเพราะตอนนั้นรู้สกอร์ เยอรมัน นำ 3-2 เรียกว่าขอให้ คอสตา ริก้า ไม่ชนะพวกเขา “ปลอดภัยชัวร์”
นั่นหมายความว่า “กระทิงดุ” เข้ารอบเป็นที่ 2 เข้าไปเจอ โมร็อกโก แทนที่จะเป็น โครเอเชีย
สเปน ไม่ได้ตั้งใจให้ออกมาในรูปนี้แต่ถือเป็น “รางวัลข้างเคียง” ตามหน้างานที่ทั้ง 2 ทีมต่างเคลียร์เควสของตัวเองตามเงื่อนไขในมือ
FYI ที่ต้องพูดถึงและปล่อยผ่านไม่ได้คือการที่ สเปน จับพลัดจับผลูจบอันดับ 2 ทำให้พวกเขาสวิงไปอยู่สายล่างเลี่ยงเจอ บราซิล ในรอบ 8 ทีม
สำหรับ อินทรีเหล็ก ต้องกลับไปถ่ายเลือดกันยกใหญ่หลังตกรอบแรกบอลโลก 2 หนซ้อนปิดฉากนักเตะอายุ 30 กว่าหลายต่อหลายคนไม่ว่าจะเป็น โธมัส มุลเลอร์, มานูเอล นอยเออร์, อีกาย กุนโดกาน
เช่นเดียวกับ เบลเยียม ที่ต้องมานับหนึ่งสร้างทีมกันใหม่หลังจุดพีคยุค โกลเด้น เจเนเรชั่น ผ่านไปแบบสูญเปล่าไม่ได้ใกล้เคียงกับความสำเร็จใดๆ
แม้ในความเป็นจริง เบลเยียม มีโอกาสซื้อเวลาให้ตัวเองอีกนิดหน่อยในฟุตบอลโลกหนนี้ด้วยการมาเจอกับ ญี่ปุ่น แทน โครเอเชีย หาก โรเมลู ลูกากู ยิงได้ซักลูกจากโอกาสเผาขนหลายต่อหลายครั้ง
เป็นการจากลาที่ไม่สวยสำหรับ “ปีศาจแดงแห่งยุโรป” ที่เจียนอยู่เจียนไปตั้งแต่มีเรื่องตึงๆจากการให้สัมภาษณ์ของ เควิน เดอ บรอยน์ ที่ดูเหลี่ยมไหนก็ไม่สมควร
บอลโลกหนนี้ ญี่ปุ่น เป็นตัวอย่างและกำลังใจชั้นดีสำหรับคนที่มั่นหน้ามั่นโหนกตัดสินผลการแข่งขันก่อนลงสนาม (เช่นผมเป็นต้น)
ไม่ว่ารอบ 16 ทีมสุดท้ายจะลงเอยอย่างไรสำหรับแข้งเลือด “ซามูไร” พวกเขาได้สร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ที่จะถูกพูดถึงไปอีกนานแสนนาน
“แชมป์กลุ่ม” เป็นก้าวเล็กๆที่จะขยายใหญ่ต่อไปในอนาคต ขอจบสวยๆปิดท้ายให้ทีมชาติ ญี่ปุ่น ไว้ตรงนี้เลยละกันครับ...

สนับสนุนโดยเว็บไซต์ Ufa




Based on : Maxsite1.10 Modified to ATOMYMAXSITE 2.5


Based on : Maxsite1.10 Modified to ATOMYMAXSITE 2.5